วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2554
กว่าจะมาเป็น BlackBerry
ฮิตกันจังไอ้เจ้ามือถือ BlackBerry เนี่ยะมาดูกันว่าต้นกำเนิดและตำนานของ "BlackBerry" อยู่ที่ไหน? ทำไมต้องชื่อแบล็กเบอร์รี่? จุดเด่นของมือถือแบล็กเบอร์รี่คืออะไร?
1. ต้นกำเนิด และตำนานของ "BlackBerry"
บริษัท รีเสิร์ช อิน โมชั่น (Research in Motion หรือ RIM) เป็นบริษัทจากแคนาดา คือ ผู้พัฒนาอุปกรณ์ไร้สายที่มีจุดเด่นในการ "ส่งอีเมล" ถึงมือถือผู้ใช้ ทุกที่ ทุกเวลา โดยรู้จักกันในชื่อว่า "แบล็กเบอร์รี่ (BlackBerry)" เปิดตัวเมื่อปี 1999 ถึงวันนี้ก็ครบ 1 ทศวรรษแล้ว นอกเหนือจากเมืองไทย ยังมีอีกกว่า 160 ประเทศที่ใช้มือถือแบล็กเบอร์รี่ และถึงปัจจุบันนี้มียอดขายไปแล้วกว่า 50 ล้านเครื่อง (ซึ่ง 70% ของชาวอเมริกันเป็นผู้ใช้มือถือแบล็กเบอร์รี่)
ระยะแรกเมื่อปี 2001 "แบล็กเบอร์รี่" เป็นเพียงเพจเจอร์ (Pager) ขนาดเล็ก ที่ผู้ใช้แต่ละคนสามารถพิมพ์ข้อความรับ-ส่งหากันได้เอง โดยมีหน้าจอขาวดำ และ แผงปุ่มกดเหมือนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์
นี่คือหน้าตาของ DataTAC 850 แบล็กเบอร์รี่รุ่นแรกสำหรับรับ-ส่งอีเมล และเล่นอินเทอร์เน็ตบนมือถือ (WAP) ยังไม่สามารถโทรออกได้ แต่ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รี่มีการพัฒนาไปมาก โดยจุดเด่นของมือถือแบรนด์นี้ก็คือ การมีแผงปุ่มกด QWERTY ที่เป็นแป้นพิมพ์มาตรฐานเหมือนที่มีในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวกในการพิมพ์ข้อความยาวๆ เพื่อส่งอีเมลหรือแชตเป็นเวลานานๆ นั่นเอง
2. ทำไมต้องชื่อ "แบล็กเบอร์รี่"
จากบทความเรื่อง How 10 Famous Technology Products Got Their Names ของเว็บไซต์ CIO ระบุถึงที่มาของชื่อ "แบล็กเบอร์รี่" ว่าทางทีมงานของบริษัท Research in Motion หรือ RIM เจ้าของมือถือแบล็กเบอร์รี่ได้จ้างบริษัท Lexicon Branding ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างตราสินค้า มาช่วยตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่มีความสามารถในการส่งอีเมลถึงมือถือลูกค้าได้ทันที แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องหลีกเลี่ยงคำว่า "อี-เมล (E-mail)" ที่มีผลการวิจัยกับผู้บริโภคว่า คำนี้กระตุ้นให้เกิดความดันโลหิตที่สูงขึ้น ฉะนั้นจึงต้องการคำใดๆ ก็ได้ที่กระตุ้นให้เกิดความสนุก และสงบสุขในเวลาเดียวกัน
หลังจากได้รับโจทย์ และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์หนึ่งในทีมงานของ Lexicon Branding ก็ระบุว่าสารพัดปุ่มกดที่อยู่บนมือถือเครื่องนี้ ทำให้เขาคิดไปถึง "เมล็ดพันธุ์" ต่างๆ จึงทำให้ทีมงานระดมสมองเพื่อหาชื่อของผลไม้ที่มีเมล็ดมากๆ อาทิ สตอเบอร์รี่ เมลอน รวมไปถึงชื่อผักอีกหลายสายพันธุ์ ก่อนที่จะมาตกลงใจใช้ชื่อ "แบล็กเบอร์รี่" ซึ่งนอกจากจะฟังแล้วเพราะพริ้ง ทั้งยังสื่อถึงตัวอุปกรณ์แบล็กเบอร์รี่ที่มีสีดำขลับได้อีกด้วย
นอกจากนี้แล้ว อาการของการติดมือถือแบล็กเบอร์รี่ เรียกว่าต้องมีอยู่ติดตัว และใช้มันอยู่ตลอดเวลา ไม่ต่างจากการใช้ยาเสพติด จึงถูกเรียกว่า "แครกเบอร์รี่ (Crackberry)" ซึ่งคำว่า Crack เป็นศัพท์แสลงในภาษาอังกฤษที่แปลว่ายาเสพติด ทำให้คำว่าแครกเบอร์รี่กลายเป็นศัพท์ใหม่ของดิกชันนารีประจำปี 2006 (Webster's New World College Dictionary) ไปในที่สุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://unigang.com
ที่มา : sanook.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)